เพียงแค่ไม่เกิน 30 นาทีพวกเราก็มาถึง “จุดชมทิวทัศน์ยอดภูสอยดาว” ซึ่งเป็นจุดที่มีความสูงมากที่สุดบนลานสน ไอหมอกสีขาวนวลซึ่งลอยปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณทำให้ไม่สามารถมองเห็นทัศนียภาพต่าง ๆ ได้ชัดเจนสักเท่าไหร่นัก พวกเราต้องนั่ง – ยืนรอสายลมให้พัดพาไอหมอกให้จางคลายไปเป็นช่วง ๆ จึงจะสามารถบันทึกภาพสวย ๆได้เป็นพัก ๆ ..........หลังจากที่ใช้ความพยายามในการรอบันทึกภาพอยู่ประมาณ 40 นาที พวกเราก็ตัดสินใจเก็บกระเป๋าแล้วเดินมุ่งหน้าตรงไปยังทางลงภูสอยดาว..........ทีมงานบางคนถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อนึกถึงว่าความยากลำบากต่าง ๆ ในการเดินทางครั้งนี้กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว
เมื่อเดินลงมาจากยอดภูได้สักพักใหญ่ อากาศที่เย็นสบายก็เริ่มกลับกลายเป็นร้อนอบอาว เมฆหมอกที่เคยปกคลุมอยู่ทั่วผืนแผ่นฟ้าเริ่มแยกกระจัดกระจายสลายตัวออกเผยให้เห็นแสงแดดจากดวงอาทิตย์เบื้องบน พวกเราถอดเสื้อหนาวที่สวมใส่ลงมาจากยอดภูสอยดาวออกมาผูกไว้กับเอว เหงื่อเม็ดน้อยใหญ่ผุดขึ้นทั่วสรรพางค์กาย ความร้อนที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทำให้รู้สึกอ่อนล้าได้เร็วกว่าปกติ พวกเราแวะนั่งพักรับประทานขนมขบเคี้ยวและอาหารสำเร็จรูปซึ่งนำติดตัวมาด้วยบริเวณ “เนินป่าก่อ” ท่ามกลางเสียงสกุณาเจื้อยแจ้ว แม้ว่าการเดินลงภูจะสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการเดินขึ้นภูมากแต่ก็ยังคงเป็นเรื่องจำเป็นที่คุณจะต้องพกพาอาหาร – น้ำดื่มติดตัวมาให้เพียงพอสำหรับการเอาตัวรอดไปจนถึงที่ทำการอุทยานฯบริเวณเชิงภูสอยดาว
ระหว่างเส้นทางขึ้น – ลงภูสอยดาวนั้นคุณอาจจะสามารถพบเห็นแมลงแปลก ๆ หายากได้บ้าง ดังเช่นที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมได้มีโอกาสเจอกับ “ด้วงกว่าง” ซึ่งถูกผูกไว้กับต้นไม้ด้วยเชือกฟาง!? พวกเราคิดเอาเองว่าเจ้าด้วงน้อยที่น่าสงสารตัวนี้น่าจะถูกเด็ก ๆ ซึ่งเป็นลูกของชาวบ้านในละแวกนั้นจับมาเล่นด้วยความซุกซนแล้วแกล้งนำเชือกมามัดมันห้อยไว้กับต้นไม้ ..........หลังจากปรึกษากันว่าจะทำยังไงกับเจ้าด้วงกว่างตัวนี้ดีสักพัก พวกเราก็ตกลงใจตัดเชือกฟางซึ่งมัดตัวเจ้าด้วงน้อยออกแล้วจับมันไปไว้บริเวณชายป่าพร้อม ๆ กับภาวนาให้มันอยู่รอดปลอดภัยไม่ถูกจับมาเป็นของเล่นอีก..........และแล้วพวกเราก็ได้เก็บความทรงจำอันน่าภาคภูมิใจเล็ก ๆ นี้กลับบ้านไปพร้อม ๆ กันกับการสิ้นสุดลงของกำหนดการเดินทางมาเยือนภูสอยดาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์
ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมใช้เวลาในการเดินจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนลานสนภูสอยดาวกลับลงมาถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวรวมทั้งหมดประมาณ 3 ชม. 15 นาที การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว : รถยนต์ส่วนบุคคล สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง รถโดยสารประจำทาง มีรถโดยสารปรับอากาศออกจากตลาด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ (ตลาดต้นโพธิ์) ไป อ.น้ำปาดทุกชั่วโมงตั้งแต่เวลา 06.00 – 17.00 น.ใช้เวลาเดินทางถึง อ.น้ำปาด ประมาณ 2 ½ ชม. จากนั้นลงรถที่หน้า รพ.น้ำปาด จะมีท่ารถสองแถว นักท่องเที่ยวต้องเหมารถไปภูสอยดาวเองใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 3 ชม.ราคาตามแต่ตกลง ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม : ฤดูฝน – ฤดูหนาว แต่ดอกหงอนนาคจะบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งดูสวยงามในช่วงเวลาประมาณกลางเดือน ก.ค. – ก.ย. ข้อควรรู้ : แม้ว่าในช่วงฤดูฝนทางเดินขึ้นยอดภูสอยดาวและพื้นที่โดยรอบลานสนจะมีน้ำขังเฉอะแฉะอยู่บ้าง แต่จากการสำรวจของทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมกลับไม่พบว่ามี “ทาก” อาศัยอยู่แต่อย่างใด (พวกเราใช้เวลาอยู่บนภูสอยดาวทั้งหมด 3 วัน 2 คืน แต่ไม่มีทีมงานคนไหนถูกทากกัดหรือพบเห็นทากเลยแม้แต่ตัวเดียว) นักท่องเที่ยวจึงไม่มีความจำเป็นต้องกังวลว่าจะโดนทากกัด หมายเหตุ : ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเก็บข้อมูล “ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์” เมื่อเดือน ส.ค. 2553
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
